ดีสเบรค กับ ดรัมเบรค แตกต่างกันอย่างไร?

สำหรับระบบเบรกนั้นมีหน้าที่หลักในการ ชะลอความเร็ว หรือทำให้รถหยุดตามความต้องการของผู้ขับ เบรกจะมีอยู่สองประเภท คือ ดิสก์เบรก (Disc Brake) และ ดรัมเบรก (Drum Brake) ซึ่งจะมีส่วนประกอบสำคัญหลัก คือ แป้นเหยียบเบรก, หม้อลมเบรก, แม่ปั๊มเบรก, ชุดดิสก์เบรก ดรัมเบรก และเบรกมือ ในการทำงานนั้นจะแยกออกเป็นระบบ
.
การทำงานของระบบเบรกแบบดิสก์เบรก (Disc Brake) การทำงานของระบบนี้จะเริ่มกระบวนการทำงานเมื่อได้รับแรงดันจากแม่ปั๊มเบรก (Master Cylinder) ส่งไปตามท่อทางเดิน เมื่อใดที่มีการเหยียบเบรก แรงดันที่ส่งจากแม่ปั๊มเบรกตามที่กล่าวไปตอนต้น ซึ่งจะส่งแรงดันไปดันน้ำมันเบรกไหลไปสู่ลูกสูบในคาลิเปอร์ (Caliper) และไปดันผ้าเบรก (Brake Pad) ให้เลื่อนเข้าไปจับกับจานเบรก (Disc Rotor) อีกที ส่งผลให้ล้อหมุนช้าหรือหยุดนั่นเอง
.
การทำงานของระบบดรัมเบรก (Drum Brake) สำหรับระบบเบรกชนิดนี้ ยังคงมีการใช้งานอยู่ค่อนข้างมากโดยเฉพาะรถขนาดเล็กอย่างกลุ่ม Eco Car, City Car รวมไปถึงกลุ่มรถเพื่อการพาณิชย์ หลักการทำงานยังเป็นแบบไฮดรดลิค ซึ่งต้องอาศัยแรงดันจากหม้อลม และแม่ปั๊มเบรกส่งแรงดันให้น้ำมันมายังกระบอกเบรก (Brake Cylinder) ไม่ต่างจากระบบเบรกแบบดิสก์ ซึ่งกระบอกเบรกจะทำหน้าที่คล้ายกับคาลิเปอร์ แต่แทนที่ผ้าเบรกจะถูกดันให้ไปจับที่ตัวจานเบรก ระบบนี้จะเป็นการถางออกของตัวลูกสูบภายในกระบอกเบรก เพื่อดันฝักเบรกให้ไปติดกับกระทะดรัมเบรก ส่งผลให้รถชะลอหรือหยุดเช่นกัน และเราจะเห็นว่าการทำงานของระบบดรับเบรกนี้จะมีชิ้นส่วนสำคัญหลายตัว เริ่มจากกระบอกเบรก ซึ่งเป็นชิ้นส่วนหนึ่งในชุดดรัมเบรก การทำงานใช้หลักการเดียวกับลูกสูบของดิสก์เบรก ทว่าเป็นการเลื่อนออกสองด้านไม่ใช่ด้านเดียว ลูกสูบภายในกระบอกเบรกเมื่อได้รับแรงดันน้ำมันจะขยับเลื่อนตัวออกไปดันฝักเบรกอีกที
.
Cr. TRW Thailand ถือเป็นผู้นำด้านการผลิตระบบเบรกอย่างแท้จริง และ เป็นหนึ่งในผู้ผลิตอะไหล่ทดแทนเพียงไม่กี่ราย ที่มีการทดสอบของตัวเองอย่างเข้มงวดและได้มาตรฐาน ช่วยให้เราสามารถควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอนการผลิต สำหรับผู้ใช้รถที่กำลังมองหาอะไหล่ทดแทนอยู่นั้น ขอให้วางใจให้ TRW เป็นทางเลือกแรกเมื่อคุณต้องการติดตั้งระบบเบรกที่มีความสมบูรณ์ที่สุดนะครับ
Visitors: 735,109